เคล็ดลับ 12 ท่า “บอกลา Office Syndrome”
Credit picture : shareherb.com
สวัสดีค่า กลับมาเจอกับน้องเลิฟอีกแล้ว สำหรับใครที่นั่งทำงานนานๆ ฟังทางนี้เลยค่ะ ถ้ามีอาการ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดบ่า หรือ เกิดอาการนิ้วล๊อค ดวงตาพร่ามัว เนี่ยให้ระวังโรค ”Office Syndrome” ไว้เลยนะคะ เจ้าโรคนี้เป็นกลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศที่นั่งทำงานในลักษณะที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งทำงานตลอดเวลา นั่งหลังค่อม อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ สูงกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันโดยไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย รวมถึงปัญหาความเครียด ก็ส่งผลต่อการเกิดโรคนี้ด้วย โดยจะมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบ และปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ เช่น หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ ส่วนบางรายที่มีอาการของหมอนรองกระดูกเคลื่อนอยู่แล้ว หากทำงานในอริยาบทที่ผิดจะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น โหย…แค่ฟังก็น่ากล้วละใช่มั้ยล่ะ
ดังนั้นเนี่ย เราสามารถป้องกันอาการของโรค Office Syndrome โดยการเปลี่ยนอิริยาบท การนั่งทำงาน รวมถึงพักผ่อนร่างกายเป็นระยะ และพยายามหลีกเลี่ยงการนั่งหลังค่อม การจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ รวมทั้งผ่อนคลายสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เรื่อยๆ หรือหาต้นไม้สีเขียวมาปลูกเพื่อความสบายตาบ้างนะคะ หากสาวๆ มีอาการเริ่มต้นของโรค Office Syndrome นี้แล้วละก็ ไม่ต้องตกใจไปนะยูวว์ น้องเลิฟมีท่าบริหารง่ายๆ สามารถทำที่ออฟฟิศได้ในเวลาเพียง 4 นาทีกับ 12 ท่าแก้อาการ Office Syndrome ลองทำดูนะคะ ไม่ยากเลย
ท่าที่ 1 ยืดกล้ามเนื้อไหล่และต้นแขน โดยการประสานมือ จากนั้นยืดแขนและหันฝ่ามือออก พยายามยืดแขนให้สุดให้เหมือนมีคนมาดึงมือเราไว้ และนั่งหลังตรงด้วยนะคะ ทำค้างไว้ 10 – 15 วินาที
ท่าที่ 2 จัดกระดูกสันหลัง โดยการนั่งหลังตรง หายใจเข้า แล้ววาดมือขึ้นไปพนมไว้เหนือศรีษะ พยายามให้แขนอยู่หลังใบหู หน้ามองตรง จากนั้นให้หายใจเข้าออกตามปกติ ทำค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นวาดมือลง ท่านี้เป็นการจัดกระดูกสันหลังให้ตรงด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ แต่ได้ผลดีค่ะ ทำไว้บ่อยๆ นึกขึ้นได้เมื่อไหร่ให้ทำทันที และทำได้ตลอดทั้งวัน เป็นการป้องกันการคดงอของกระดูกสันหลัง และช่วยให้หลังแข็งแรงด้วยค่ะ
ท่าที่ 3 เริ่มจากยืนตัวตรง ให้งอขอศอกข้างใดข้างหนึ่งก่อนจากนั้นใช้มืออีกข้าง จับที่ข้อศอกแล้วเอี้ยวตัวดึงให้รู้สึกตึง ท่านี้จะช่วยยืดข้างลำตัวได้ดี ทำข้างละ 5–10 วินาที
ท่าที่ 4 ให้กลับไปทำเหมือนท่าที่ 2 อีกครั้ง ใช้เวลา 15–20 วินาที
ท่าที่ 5 นั่งหลังตรง จากนั้นยกไหล่ขึ้นให้สูงขึ้นทั้ง 2 ข้างค้างไว้ประมาณ 3–5 วินาที ทำ 3 ครั้ง ท่านี้จะช่วยในเรื่องหลังส่วนบน ลำคอ และหัวไหล่
ท่าที่ 6 เอามือไขว้ด้านหลัง จากนั้นใช้มืออีกข้างดึงข้อมือ และเอียงคอไปด้านที่ถูกดึง ตามภาพ ทำข้างละ 10–12 วินาที ช่วยยืดหลังส่วนล่างและลำคอ
ท่าที่ 7 ประนมมือแนวตั้ง และพยายามกดข้อมือลงช้าๆ จากนั้นค้างไว้ที่ 10 วินาที จากนั้นต่อเนื่อง
ท่าที่ 8 ประนมมือแบบคว่ำ ค่อยๆ พลิกมือและกดข้อมือลงช้าๆ เช่นกัน ทั้ง 2 ท่านี้จะช่วยในเรื่องของข้อมือ คลายอาการปวดจากการใช้พิมพ์คีย์บอร์ดนานๆ
ท่าที่ 9 นั่งบนเก้าอี้หลังตรง จากนั้นยกแขนข้างนึงขึ้นด้านบน ส่วนแขนอีกข้างชี้ลงพื้น ให้สาวๆ พยายามยืดแขนในแต่ละข้างให้ได้มากที่สุด ให้เหมือนกับมีคนมาดึงแขนเราทั้ง 2 ข้าง ทำค้างไว้ข้างละ 8–10 วินาที ท่านี้จะช่วยยืดลำตัว ลดอาการปวดหลังและข้างลำตัวได้เป็นอย่างดีค่ะ
ท่าที่ 10 นั่งไขว่ห้าง และบิดลำตัวให้สวนทางกับขาข้างที่ไขว้ พยายามบิดตัวและมองไปด้านหลังอย่างช้าๆ ทำสลับกันข้างละ 8–10 วินาที ช่วยในเรื่องการยืดหลัง และเอว
ท่าที่ 11. นั่งหลังตรงไม่ติดเบาะ จากนั้นเอามือจับด้านหลังเหนือเอว และพยายามยืดตัวขึ้นอย่างช้าๆ ทำค้างไว้ 10–15 วินาที จำนวน 2 ครั้ง ช่วยยืดหลังและเอว
ท่าที่ 12. ท่านี้ยืนหรือนั่งก็ได้นะคะ ให้ทิ้งแขนทั้ง 2 ข้างไว้ข้างลำตัว จากนั้นให้เขย่ามือทั้ง 2 ข้างอย่างช้าๆ ใช้เวลาประมาณ 8–10 วินาที จะช่วยในส่วนของข้อมือให้ relax มากขึ้น
Credit photo : myhappyoffice.com
Credit : Geniexx
280 total views, 1 views today